นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า เขาเตรียมสัมภาษณ์บุคคล 11 คนที่อาจขึ้นดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แทนนายเจอโรม พาวเวล โดยการสัมภาษณ์ดังกล่าวจะเริ่มขึ้น หลังวันแรงงานสหรัฐ ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ก.ย.
"ผมจะเริ่มพบกับพวกเขาหลังวันแรงงานเพื่อคัดเลือกและนำเสนอรายชื่อให้ท่านประธานาธิบดีทรัมป์" นายเบสเซนต์กล่าวในรายการ Squawk Box ของสำนักข่าว CNBC
ทั้งนี้ รายชื่อ 11 คนดังกล่าว ได้แก่ นางมิเชลล์ โบว์แมน และนายฟิลิป เจฟเฟอร์สัน ซึ่งต่างก็เป็นรองประธานเฟด, นายเควิน วอร์ช และนายแลร์รี ลินด์ซีย์ ซึ่งต่างก็เป็นอดีตผู้ว่าการเฟด, นายคริส วอลเลอร์ สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด และเป็นสมาชิกถาวรของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC), นายเจมส์ บูลลาร์ด อดีตประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์, นางลอรี โลแกน ประธานเฟด สาขาดัลลัส, นายมาร์ค ซัมเมอร์ลิน อดีตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจในรัฐบาลของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช, นายเดวิด เซอร์วอส หัวหน้านักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดของเจฟเฟอรีส์, นายเควิน แฮสเซ็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ รวมทั้งนายริก รีเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนด้านตราสารหนี้ทั่วโลกของบริษัทแบล็คร็อค
บุคคลในรายชื่อดังกล่าวต่างมีประสบการณ์ในตลาดการเงินและนโยบายการเงิน และแม้บางส่วนเคยสนับสนุนให้มีการปฏิรูปเฟดในระดับต่าง ๆ แต่ส่วนใหญ่ยังคงยึดมั่นในความเป็นอิสระของเฟด
แม้วาระการดำรงตำแหน่งของนายพาวเวลจะยังไม่สิ้นสุดจนถึงเดือนพ.ค.2569 แต่ทำเนียบขาวก็ต้องการเร่งกระบวนการสรรหาประธานเฟดคนใหม่เพื่อผลักดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นายเบสเซนต์ย้ำถึงความต้องการของรัฐบาลในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยชี้ว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัยที่ซบเซา โดยยอดขายและการก่อสร้างใหม่ยังคงอ่อนแอ ขณะที่สต็อกบ้านต่ำทำให้ราคาพุ่งขึ้น
"ถ้าเรายังจำกัดการก่อสร้างที่อยู่อาศัย แล้วอีกหนึ่งถึงสองปีข้างหน้า เงินเฟ้อจะสูงแค่ไหน ดังนั้นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในตอนนี้จะช่วยกระตุ้นการก่อสร้างหรือความคึกคักในตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยกดดันราคาบ้านให้อยู่ในระดับต่ำในอีกหนึ่งถึงสองปีข้างหน้า" นายเบสเซนต์กล่าว