แอนนา พอลสัน กล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (13 ต.ค.) ในฐานะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อภาคแรงงานเป็นเหตุผลสนับสนุนให้เฟดดำเนินมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจากอัตราภาษีการค้าไม่น่าจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นมากตามที่คาดการณ์ไว้
พอลสันเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียในเดือนก.ค. แทน แพทริก ฮาร์เคอร์ ที่เกษียณอายุ โดยก่อนมาร่วมงานที่เฟดสาขาฟิลาเดลเฟียนั้น เธอเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยที่เฟดสาขาชิคาโก
พอลสันกล่าวต่อที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติ (National Association for Business Economics - NABE) ที่ฟิลาเดลเฟียว่า จากมุมมองของเธอเกี่ยวกับภาษีการค้าและเงินเฟ้อ นโยบายการเงินควรเน้นการสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงต่อการจ้างงานสูงสุดและเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งหมายถึงการปรับนโยบายไปสู่จุดยืนที่เป็นกลางมากขึ้น
เธอเสริมว่าความเสี่ยงในตลาดแรงงานดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น ไม่มากเกินไปแต่ก็สังเกตได้ชัดเจน และแนวโน้มกำลังเคลื่อนไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง จึงควรเป็นจุดสนใจของนโยบายในขณะนี้
แม้พอลสันไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการให้เฟดดำเนินการลดดอกเบี้ยอย่างไร แต่เธอมองว่าการผ่อนคลายตามแนวทางที่เฟดคาดการณ์ไว้ในการประชุมด้านนโยบายเดือนก่อนน่าจะเป็นแนวทางที่เป็นไปได้
ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% อยู่ในช่วง 4.00%-4.25% และระบุว่าอาจลดเพิ่มเติมอีก 0.5% ก่อนสิ้นปีนี้ รวมถึงมีแผนปรับลดเพิ่มเติมอีกในปีหน้าและปี 2570
พอลสันกล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนั้นสมเหตุสมผล เพราะเฟดต้องการชดเชยความเสี่ยงต่อภาคแรงงาน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนกำลังประเมินทิศทางนโยบายการเงิน แม้ว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง แต่บางคนกังวลว่าภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่บางคนกังวลต่อภาคแรงงาน และเชื่อว่าเฟดควรดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน