ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ สมาชิกหลายรายของคณะกรรมการบีโอเจได้แสดงมุมมองว่า อัตราดอกเบี้ยระยะยาวของญี่ปุ่นอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ โดยตั้งข้อสังเกตว่าโครงการซื้อพันธบัตรมูลค่ามหาศาลของบีโอเจถือเป็น "ปัจจัยสำคัญในการสกัดแรงกดดันช่วงขาขึ้นต่ออัตราดอกเบี้ยระยะยาว" ที่เป็นผลมาจากการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศและความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้น
สำหรับประเด็นเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น สมาชิกบางส่วนมองว่า การบริโภคของภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากทะยานขึ้นของราคาหุ้น นอกจากนี้ การบริโภคของภาคเอกชนได้ฟื้นตัวมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการจ้างงานและรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้น
ส่วนในเรื่องของราคาผู้บริโภค สมาชิกบางรายกล่าวว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เมื่อเทียบเป็นรายปีนั้น จะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไปจนถึงช่วงฤดูร้อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปฏิกริยาที่มีต่อการร่วงลงของราคาน้ำมันในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าการปรับตัวขึ้นของดัชนี CPI จะยุติลงหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว
ในด้านความคืบหน้าทางเศรษฐกิจในต่างประเทศนั้น สมาชิกบีโอเจมีมุมมองที่เหมือนกันว่า ตลาดการเงินทั่วโลก "กำลังเริ่มมีเสถียรภาพ" เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ลดน้อยลงในประเด็นที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
นอกจากนี้ รายงานการประชุมระบุว่า สมาชิกบีโอเจเห็นพ้องต้องกันว่า เศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ขณะที่สมาชิกบางคนกล่าวว่า ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรงนั้น "มีไม่มาก" เนื่องจาก รัฐบาลจีนยืนยันว่าจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อจัดการกับภาวะอ่อนแรงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน