กฎระเบียบดังกล่าวจะระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับสภาพคล่องขั้นต่ำตามมาตรฐานสำหรับองค์กรด้านการธนาคารขนาดใหญ่ที่ดำเนินงานระหว่างประเทศ โดยนับเป็นครั้งแรกที่มีข้อกำหนดในลักษณะดังกล่าว
ภายใต้กฎระเบียบใหม่ ธนาคารขนาดใหญ่จะต้องถือครองสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องและคุณภาพสูง เช่น เงินที่สำรองไว้กับธนาคารกลาง พันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของภาคเอกชน ในสัดส่วนที่ไม่ต่ำกว่า 10% ของกระแสเงินสดไหลออกสุทธิสำหรับระยะเวลา 30 วันในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สัดส่วนการสำรองสภาพคล่องขั้นต่ำที่มีความเข้มงวดดังกล่าว ซึ่งเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่อปริมาณเงินสดไหลออกสุทธิที่คาดการณ์ไว้ของสถาบันการเงินนั้น จะมีผลบังคับใช้กับสถาบันการเงินทุกแห่งที่มีสินทรัพย์รวมมากกว่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์ หรือมีการลงทุนในต่างประเทศในงบดุลบัญชีตั้งแต่ 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ขึ้นไป
นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า กฎระเบียบดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญของเฟด “เพื่อยกระดับความปลอดภัยและความแข็งแกร่งของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ รวมทั้งความมีเสถียรภาพของระบบการเงินสหรัฐ"
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า ข้อกำหนดข้างต้นอาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการปล่อยกู้และการลงทุนของธนาคารต่างๆ เนื่องจากธนาคารจะมีสัดส่วนน้อยลงในสินทรัพย์ที่จะใช้ในการทำกิจกรรมลักษณะดังกล่าว