"ทรัมป์"โวยเฟดเป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุด เหตุเร่งขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 17, 2018 18:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ถือเป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุดสำหรับเขา โดยเขาวิตกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ภัยคุกคามใหญ่ที่สุดของผมก็คือเฟด เพราะเฟดกำลังขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป"

"เฟดมีความเป็นอิสระ ดังนั้นผมจึงไม่พูดกับคุณเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แต่ผมรู้สึกไม่สบายใจต่อสิ่งที่เขากำลังทำ" ปธน.ทรัมป์กล่าว

ปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลงเกือบ 1,400 จุด

"เป็นการปรับฐานของตลาดซึ่งผมคิดว่าเกิดจากเฟดและอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่ามาก ทำให้ภาคธุรกิจประสบปัญหา" เขากล่าว

ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เข้มงวดเกินไปในการใช้นโยบายการเงิน และกำลังดำเนินการผิดพลาด

ปธน.ทรัมป์กล่าวโจมตีเฟดว่า "ผมมีปัญหากับเฟด โดยเฟดได้บ้าไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าพวกเขามีปัญหาอะไรถึงได้เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเรื่องน่าขันสิ้นดี ไม่มีเหตุผลอะไรที่เฟดจะต้องทำอย่างนั้น ซึ่งผมไม่ชอบเลย"

อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ยืนยันว่า เขาจะไม่ปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่ง เพียงแต่เขารู้สึกผิดหวังต่อการดำเนินนโยบายของเฟด

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้แต่งตั้งนายพาวเวลเป็นประธานเฟดเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลนพ้นวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.

ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาไม่ปลื้มต่อการที่นายพาวเวลปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเขาจะวิพากษ์วิจารณ์เฟดต่อไป หากเฟดยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้งนับตั้งแต่ที่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว เทียบกับที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา

นอกจากนี้ เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอีก 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ รวมทั้งมีแนวโน้มปรับขึ้นอีก 3 ครั้งในปีหน้า

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกของสหรัฐ และทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ปธน.ทรัมป์ให้ความสนใจ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเปิดฉากทำสงครามการค้ากับประเทศคู่ค้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ