เฟดคาดเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอ่อนแอ อาจต้องใช้นโยบายคุมผลตอบแทน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 15, 2020 11:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 นั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นไปอย่างยากลำบาก และเฟดอาจจะต้องใช้เครื่องมือด้านนโยบายใหม่ ซึ่งได้แก่ การควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (yield curve control) เพื่อช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

นางเบรนาร์ดกล่าวผ่านเว็บคาสต์ของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐถูกปกคลุมไปด้วยความไม่แน่นอนอย่างมาก และเตือนว่า แม้อัตราการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ชะลอตัวลง แต่เศรษฐกิจก็มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับปัญหาต่างๆ โดยเธอระบุว่า อัตราการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค.และมิ.ย.ที่ผ่านมา อาจจะไม่ดำเนินไปอย่างยั่งยืน

นางเบรนาร์ดเป็นกรรมการเฟดที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยนักวิเคราะห์บางรายคาดว่า นางเบรนาร์ดอาจจะได้เป็นประธานเฟดคนต่อไป หากนายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป

นางเบรนาร์ดกล่าวว่า สภาคองเกรสและคณะบริหารมีบทบาทอย่างมากต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยความแข็งแกร่งของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวนั้นจะขึ้นอยู่กับนโยบายการคลัง

ในระยะยาว นางเบรนาร์ดกล่าวว่า เฟดจะต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้ นโยบายของเฟดมุ่งเป้าไปที่การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ

นโยบายหนึ่งที่อาจมีประสิทธิภาพได้แก่ การที่เฟดสัญญาว่าจะไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเหนือ 0% จนกว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%

นางเบรนาร์ดกล่าวว่า สัญญาณชี้นำทิศทางนโยบายการเงิน (Forward Guidance) อาจจะได้รับการตอกย้ำโดยการกำหนดเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นถึงระยะกลาง

เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร แต่นางเบรนาร์ดระบุว่า เธอเปิดกว้างกับการวิเคราะห์และหารือเกี่ยวกับแนวทางนี้

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐอยู่ที่ 0.642% ซึ่งยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดที่ทำไว้ที่ 0.5% เมื่อต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ