ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) ของกรรมการ BOJ ในวันนี้ โดยระบุว่า ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 18-19 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น กรรมการ BOJ ได้แสดงความเห็นว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในขณะนี้ยังไม่ใช่เรื่องจำเป็น
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันดังกล่าว คณะกรรมการ BOJ มีมติยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบที่ดำเนินการมา 8 ปี และได้ยกเลิกนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) ซึ่งถือเป็นการยุตินโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษ (ultra-loose monetary policy) ที่ดำเนินการมาเป็นเวลานาน
รายงาน Summary of Opinions ระบุว่า กรรมการคนหนึ่งของ BOJ กล่าวในระหว่างการประชุมครั้งนี้ว่า BOJ จำเป็นต้องมีความรอบคอบระมัดระวังเกี่ยวกับการยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังไม่ได้อยู่ในสถานะที่จำเป็นจะต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กรรมการ 1 ใน 9 คนของ BOJ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ BOJ จะปรับเปลี่ยนไปใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายในระดับที่ปกติโดยไม่ก่อให้เกิดภาวะวิกฤตในระยะสั้น ขณะที่กรรมการคนอื่น ๆ กล่าวว่า "BOJ มีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายการสร้างเสถียรภาพด้านราคา"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันดังกล่าว นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยกล่าวว่า การที่ BOJ ตัดสินใจยกเลิกการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษนั้น สะท้อนให้เห็นว่า BOJ มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อได้อย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน
ทั้งนี้ รายงาน Summary of Opinions รวบรวมโดยผู้ว่าการ BOJ และการแสดงความเห็นในรายงานนี้เป็นความเห็นโดยรวม ไม่ได้เป็นความเห็นของกรรมการ BOJ ที่เฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
ในการประชุมเมื่อวันที่ 18-19 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0 ถึง 0.1% จากระดับ -0.1% ซึ่งถือเป็นการยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบที่ดำเนินการมาเป็นเวลานานและเป็นประเทศสุดท้ายของโลก หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าค่าจ้างของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นในปีนี้