สำนักงานสถิติอินโดนีเซียเปิดเผยวันนี้ (5 พ.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศในไตรมาส 1/2568 เติบโต 4.87% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 3 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ที่ 4.91%
การเติบโตในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. ช้าที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 และลดลงเมื่อเทียบกับการเติบโตที่ 5.02% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยเศรษฐกิจของอินโดนีเซียเติบโตขึ้นที่ระดับราว 5% นับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
เมื่อพิจารณาเป็นรายไตรมาสก่อนปรับค่าตามฤดูกาล GDP หดตัวลง 0.98%
ประธานาธิบดีปราโบโว สุเบียนโต ได้ให้คำมั่นที่จะทำให้การเติบโตพุ่งขึ้นสู่ระดับ 8% ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง 5 ปี อย่างไรก็ตาม เขากำลังเผชิญกับอุปสรรคจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวท่ามกลางสงครามการค้า รวมถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลงและงบประมาณที่ตึงตัวขึ้น
สินค้าของอินโดนีเซียที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรที่สูงถึงสูงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่ทางการอินโดนีเซียกำลังหารือกับสหรัฐฯ