เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) เปิดเผยในวันนี้ (6 พ.ค.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหราชอาณาจักร ดิ่งลงสู่ระดับ 49.0 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 52.5 ในเดือนมี.ค. ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการหดตัวหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 แม้จะยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 48.9 ก็ตาม
ผลสำรวจที่เปิดเผยในวันนี้บ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของระบบเศรษฐกิจประเทศ ประสบภาวะหดตัวอย่างหนักในเดือนเม.ย. นับเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. ปี 2566 อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณคำสั่งซื้อในช่วงเดือนเม.ย. ทั้งยังเป็นการหดตัวในอัตราที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความปั่นป่วนจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคการส่งออกและความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 โดยสาเหตุหลักมาจากสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยและความลังเลของภาคธุรกิจ อันเป็นผลพวงมาจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหราชอาณาจักร ก็ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 48.5 ในเดือนเม.ย. จาก 51.5 ในเดือนมี.ค. ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2566 แต่ยังคงสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 48.2