IEA คาดดีมานด์น้ำมันโลกชะลอตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ ผลพวงปัญหาศก.-กระแสรถ EV

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 15, 2025 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยวันนี้ (15 พ.ค.) ว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า ประกอบกับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ จะฉุดให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกชะลอตัวลง โดยน่าจะโตเพียง 650,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงที่เหลือของปี 2568

ตัวเลขดังกล่าวถือว่าชะลอตัวลงจากระดับ 990,000 บาร์เรลต่อวัน ที่ IEA ประเมินไว้สำหรับการเติบโตของอุปสงค์ในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.)

ปัจจุบัน IEA คาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกโดยรวมในปีนี้จะเติบโตเฉลี่ย 740,000 บาร์เรลต่อวัน ปรับเพิ่มขึ้น 20,000 บาร์เรลต่อวันจากคาดการณ์เดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นและราคาน้ำมันที่ปรับลดลงซึ่งกระตุ้นการบริโภค

นอกจากนี้ IEA คาดว่าในปี 2569 ความต้องการจะยังคงเติบโตในระดับใกล้เคียงกันที่ 760,000 บาร์เรลต่อวัน

ขณะเดียวกัน IEA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของอุปทานน้ำมันโลกในปี 2568 ขึ้นอีกเกือบ 400,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยปัจจัยหลักมาจากการคาดการณ์ว่าซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่ง IEA ชี้ว่าเป็นปัจจัยผลักดันเกือบทั้งหมดของการปรับเพิ่มครั้งนี้ เนื่องจากเป็นประเทศเดียวที่มีกำลังการผลิตสำรองส่วนเกินจำนวนมาก การเพิ่มขึ้นนี้จะช่วยชดเชยการผลิตน้ำมันจากหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะชะลอตัวลงในภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ

IEA กล่าวถึงแนวโน้มน้ำมันจากหินดินดานของสหรัฐฯ ว่า "จากแนวโน้มราคาที่ยังคงอ่อนตัว เราคาดว่าจะเห็นการลดกิจกรรมการผลิตลงอีกในหลายไตรมาสข้างหน้า" ทั้งนี้ IEA ได้ปรับลดคาดการณ์ผลผลิตน้ำมันจากหินดินดานของสหรัฐฯ ลง 40,000 บาร์เรลต่อวันสำหรับปี 2568 และ 190,000 บาร์เรลต่อวันสำหรับปี 2569

IEA ระบุเพิ่มเติมว่า อุปทานน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและสูงกว่าการเติบโตของอุปสงค์อย่างมีนัยสำคัญ จะผลักดันให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 720,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้ สวนทางกับปีที่แล้วที่ปริมาณน้ำมันคงคลังลดลงเฉลี่ย 140,000 บาร์เรลต่อวัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ