กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (23 พ.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดที่มีความผันผวน เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 เนื่องจากต้นทุนพลังงานปรับตัวสูงขึ้น หลังรัฐบาลลดเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนี CPI พื้นฐานเดือนเม.ย. ปรับตัวขึ้น 3.5% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนมี.ค. โดยตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งตั้งไว้ที่ 2%
ส่วนดัชนี core-core CPI ซึ่งไม่นับรวมทั้งราคาพลังงานและอาหารสด เพิ่มขึ้น 3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี
ราคาพลังงานพุ่งขึ้นถึง 9.3% ในเดือนเม.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนมี.ค. ส่วนราคาอาหารซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารสด ปรับตัวขึ้น 7% และราคาสินค้าคงทนที่ใช้ในครัวเรือนปรับตัวขึ้น 6.4%
ในช่วงต้นปีนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้นำนโยบายการให้เงินอุดหนุนค่าไฟฟ้าและค่าแก๊สในเมืองกลับมาใช้ใหม่ เนื่องจากครัวเรือนยังคงเผชิญกับความยากลำบากจากราคาที่สูงขึ้น แต่รัฐบาลได้ลดจำนวนเงินอุดหนุนลงในเดือนเม.ย.