ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักร (UK) ออกมาดีเกินคาดในเดือนเม.ย. ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่แจ่มใส ทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้นในเดือนพ.ค. บ่งชี้ว่าผู้บริโภคอาจเป็นแรงหนุนสำคัญท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังดูไม่สดใสนัก
สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานในวันนี้ (23 พ.ค.) ว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมี.ค.
ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.2% และทำสถิติเติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งเป็นสถิติที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2563 ช่วงที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคฟื้นตัวหลังการล็อกดาวน์โควิด-19 ระลอกแรก และหากไม่นับรวมช่วงโควิดระบาด ถือเป็นสถิติการเติบโตต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2547
ยอดขายอาหารทะยานขึ้น 3.9% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสำนักงานสถิติฯ ชี้ว่าเชื่อมโยงกับข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่า เดือนเม.ย.ปีนี้มีแดดออกมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม ยอดขายสินค้าที่ไม่ใช่อาหารปรับตัวลดลง 0.7%
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน บริษัทวิจัยตลาด GfK เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค UK ขยับขึ้นสู่ระดับ -20 ในเดือนพ.ค. จาก -23 ในเดือนเม.ย. ซึ่งดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ -22 โดยเป็นผลมาจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดดอกเบี้ยเมื่อต้นเดือนนี้ ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าโลกผ่อนคลายลง