ผลสำรวจทางธุรกิจที่เปิดเผยในวันนี้ (1 ก.ค.) แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมในภาคการผลิตของประเทศอินเดียขยายตัวอย่างรวดเร็วในเดือนมิ.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากยอดขายในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการผลิตเพิ่มสูงขึ้นและเกิดการจ้างงานใหม่ในอัตราสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของอินเดียจาก HSBC ซึ่งรวบรวมข้อมูลโดย S&P Global ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.4 ในเดือนมิ.ย. จาก 57.6 ในเดือนพ.ค. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ปริมาณการผลิตของโรงงานขยายตัวในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งปี โดยมีแรงหนุนสำคัญจากคำสั่งซื้อในตลาดต่างประเทศ
ยอดคำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกเติบโตสูงเป็นอันดับสามนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในเดือนมี.ค. 2548 โดยดีมานด์หลัก ๆ มาจากสหรัฐอเมริกา
อุปสงค์ที่แข็งแกร่งกระตุ้นให้ผู้ผลิตจ้างงานเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจเมื่อกว่าสองทศวรรษที่แล้ว
แรงกดดันด้านราคาสำหรับผู้ผลิตผ่อนคลายลงในเดือนมิ.ย. โดยอัตราเงินเฟ้อของต้นทุนการผลิตชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน แม้ว่าราคาเหล็กและเหล็กกล้าจะปรับตัวสูงขึ้นบ้างก็ตาม ขณะเดียวกัน บริษัทต่าง ๆ ยังคงปรับขึ้นราคาขายเพื่อผลักภาระต้นทุนต่าง ๆ เช่น ค่าขนส่ง ค่าแรง และค่าวัตถุดิบ ไปยังผู้บริโภค แต่ในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า
ความเชื่อมั่นโดยรวมยังคงเป็นบวก แต่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากผู้ผลิตบางรายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันที่รุนแรง ภาวะเงินเฟ้อ และรสนิยมของผู้บริโภคที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง