สำนักงานสถิติแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียรายงานในวันนี้ (15 ก.ค) ว่า อัตราเงินเฟ้อของซาอุฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยับขึ้นเล็กน้อยจาก 2.2% ในเดือนพ.ค. โดยมีปัจจัยหลักมาจากค่าเช่าที่อยู่อาศัยที่เพิ่มสูงขึ้น
รายงานระบุว่า ค่าเช่าที่อยู่อาศัยโดยรวมปรับตัวสูงขึ้น 7.6% โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าเช่าวิลล่าที่เพิ่มขึ้น 7.1% ซึ่งส่งผลให้หมวดค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ก๊าซ และเชื้อเพลิงอื่น ๆ ทะยานขึ้น 6.5%
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของซาอุฯ เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 2.0%-2.3% มาตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่าระดับ 1.5% ในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว
เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลซาอุฯ ได้ประกาศมาตรการสร้างสมดุลในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของกรุงริยาดเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งรวมถึงการกันที่ดินบางส่วนไว้สำหรับพลเมืองซาอุฯ ในราคาควบคุม นอกจากนี้ ยังได้อนุมัติกฎหมายการถือครองและลงทุนในอสังหาฯ ฉบับใหม่ ที่จะช่วยให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาฯ ได้ง่ายขึ้น โดยจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า
ขณะเดียวกัน ซาอุฯ กำลังเดินหน้าโครงการพัฒนาอสังหาฯ ขนาดใหญ่หลายแห่งรอบกรุงริยาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ชาติ "วิสัยทัศน์ 2030" (Vision 2030) ที่มุ่งปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อลดการพึ่งพาน้ำมัน พร้อมส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและภาคเอกชน
ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของซาอุฯ จะยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 2% โดยมีปัจจัยหนุนจากการที่ค่าเงินริยาลผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐ นโยบายอุดหนุนจากภาครัฐ และอุปทานแรงงานต่างชาติที่มีความยืดหยุ่น