กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนในเดือนก.ค. ขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 11 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากภาคบริการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับภาคการผลิตที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวใกล้พ้นจากภาวะถดถอย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซน จาก HCOB ซึ่งรวบรวมโดย S&P Global ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.0 ในเดือนก.ค. จาก 50.6 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 50.8
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ HCOB กล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนดูเหมือนจะค่อย ๆ กลับมามีแรงส่งอีกครั้ง และภาวะถดถอยในภาคการผลิตใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว
การฟื้นตัวครั้งนี้มีปัจจัยหนุนหลักจากดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 51.2 ในเดือนก.ค. จาก 50.5 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่โดยรวมทรงตัวอยู่ที่ระดับ 50.0 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปีที่อุปสงค์ไม่ปรับตัวลดลง
ในฝั่งของภาคการผลิตที่อยู่ในภาวะหดตัวมานานถึงสามปีนั้น ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นขยับขึ้นมาเกือบแตะระดับขยายตัวที่ 49.8 ในเดือนก.ค. จาก 49.5 ในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม ดัชนีผลผลิตกลับลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 50.7
ข้อมูลดังกล่าวยังชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลายลง โดยดัชนีราคาต้นทุนภาคบริการลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อทางการของยูโรโซนในเดือนมิ.ย. ที่อยู่ในระดับเป้าหมาย 2.0% ของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ แต่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในเดือนก.ย.