ผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันนี้ (5 ส.ค.) ชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนในเดือนก.ค. ขยายตัวเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากภาคบริการ แต่ภาพรวมยังคงเปราะบางจากอุปสงค์ใหม่ที่ซบเซาและภาคการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่อง ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี
S&P Global เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซนโดย HCOB ประจำเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 52.4 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นเล็กน้อยที่ 51.0
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ภาคบริการเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายยูโรโซนขยับขึ้นสู่ระดับ 51.0 ในเดือนก.ค. จากระดับ 50.5 ในเดือนมิ.ย.
ไซรัส เดอ ลา รูเบีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ กล่าวว่า "นี่อาจเป็นฤดูร้อนที่ดีสำหรับผู้ให้บริการ" โดยกิจกรรมทางธุรกิจในอิตาลีและสเปนเร่งตัวขึ้นชัดเจน ขณะที่เยอรมนีสามารถพลิกกลับมาขยายตัวได้สำเร็จหลังเผชิญความท้าทายมาหลายเดือน
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังถูกฉุดรั้งจากหลายปัจจัย โดยยอดสั่งซื้อใหม่โดยรวมยังคงทรงตัว ขณะที่ยอดขายจากการส่งออกหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 41
สเปนและอิตาลีขยายตัวแข็งแกร่ง แต่เยอรมนีซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยูโรโซนเติบโตเพียงเล็กน้อย ส่วนฝรั่งเศสกลับหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11
ความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. สวนทางกับการจ้างงานที่ยังคงเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันและแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปี
แรงกดดันด้านต้นทุนในภาคบริการผ่อนคลายลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. ปีก่อน ซึ่งเดอ ลา รูเบีย มองว่า "กำลังเพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางยุโรปจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี"