ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยในวันนี้ (2 ต.ค.) ว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดของเกาหลีใต้เกินดุลสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนส.ค. แม้ตัวเลขการส่งออกจะชะลอตัวลง แต่ได้รับปัจจัยหนุนสำคัญจากการนำเข้าที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น
ข้อมูลระบุว่า ในเดือนส.ค. ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศมีมูลค่าสูงถึง 9.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เกาหลีใต้เกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 28 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2566 เป็นต้นมา
แม้ว่าตัวเลขเกินดุลในเดือนส.ค. จะลดลงเล็กน้อยจากระดับ 1.078 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. แต่ก็ยังถือเป็นสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับเดือนส.ค.
เมื่อมองภาพรวมในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสะสมอยู่ที่ 6.93 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 5.594 หมื่นล้านดอลลาร์
เมื่อพิจารณาในรายละเอียด พบว่าดุลการค้าสินค้าเกินดุลถึง 9.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับสองสำหรับเดือนนี้ โดยมูลค่าการส่งออกปรับตัวลดลง 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 5.644 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการสินค้ากลุ่มเหล็กและเคมีภัณฑ์ในตลาดโลกอ่อนตัวลง ขณะที่มูลค่าการนำเข้าลดลงถึง 7.3% เหลือเพียง 4.704 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง
ในทางกลับกัน ดุลบัญชีบริการยังคงขาดดุลอยู่ที่ 2.12 พันล้านดอลลาร์ โดยมีสาเหตุหลักมาจากความต้องการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวเกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบัญชีรายได้ปฐมภูมิ ซึ่งรวมถึงรายรับจากค่าจ้างแรงงานในต่างประเทศ เงินปันผล และดอกเบี้ยจากการลงทุนในต่างแดน ยังคงแข็งแกร่ง โดยเกินดุล 2.07 พันล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.