กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ (14 ต.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3/2568 ของสิงคโปร์ ขยายตัว 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 1.9%
อย่างไรก็ตาม GDP ไตรมาส 3 ชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ที่มีการขยายตัว 4.5% ส่วนเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 1.3% ชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 1.5%
ปัจจัยที่ทำให้ GDP ไตรมาส 3 ของสิงคโปร์ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงนั้น มาจากการที่ภาคผลิตที่ซบเซาลง หลังจากมีการขยายตัวถึง 5% ในไตรมาส 2 ขณะที่ภาคการก่อสร้างชะลอตัวลงเช่นกัน โดยขยายตัวเพียง 3.1% ในไตรมาส 3 ซึ่งชะลอลงจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 6.2%
ทางด้านธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่เติบโตแข็งแกร่งมากกว่าคาดในไตรมาส 3 แม้สิงคโปร์ยังเผชิญความเสี่ยงจากสงครามการค้าทั่วโลกที่เกิดจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
ทั้งนี้ MAS ซึ่งใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือนโยบายหลักแทนอัตราดอกเบี้ย เปิดเผยในวันนี้ว่า คณะกรรมการ MAS จะคงความชัน ความกว้าง และจุดกึ่งกลางของกรอบนโยบายการเงินไว้เช่นเดิม โดย MAS ได้คงนโยบายการเงินที่ระดับดังกล่าวตั้งแต่เดือนก.ค.ปีนี้
แม้ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของสิงคโปร์ขยายตัวได้ดีเกินคาด แต่ MAS เตือนว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงในปี 2569 โดยคาดการณ์ว่าการขยายตัวของ GDP จะอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากกิจกรรมในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการค้าเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ MAS คาดการณ์ว่า การลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทั่วโลกจะช่วยสนับสนุนภาคการผลิตของสิงคโปร์ ขณะที่ภาคการก่อสร้างและการบริการทางการเงิน มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานและภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลาย