รายงานดังกล่าวจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดการเงินว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวได้ดี เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลน้อยลง อย่างไรก็ตาม การขยายตัวได้ดีเกินคาดของจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐได้เพิ่มน้ำหนักให้กับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เนื่องจากเฟดเคยส่งสัญญาณเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะเริ่มลดขนาดหรือชะลอการใช้ QE ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานฟื้นตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ แม้จีดีพีของสหรัฐยังคงขยายตัวได้ดี แต่ตลาดการเงินก็เริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐอีกครั้ง หลังจากนายจาค็อบ ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ออกมาเตือนว่า หนี้สินของรัฐบาลกลางสหรัฐจะพุ่งแตะเพดานสูงสุดที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในกลางเดือนต.ค.นี้ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐสภาเพิ่มอำนาจการกู้ยืมเงินของรัฐบาลในช่วงเวลาที่เหมาะสม
นายลิวยังกล่าวด้วยว่า กระทรวงการคลังอาจจะไม่มี "มาตรการพิเศษ" ใดๆ ที่จะสามารถปกป้องสหรัฐให้รอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ได้ภายในช่วงกลางเดือนต.ค.นี้ และสภาคองเกรสควรเพิ่มอำนาจในการกู้ยืมเงินให้กับรัฐบาล "โดยเร็วที่สุด"