สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนก.ค. แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมา ซึ่งไม่ใช่ปัจจัยดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1 จุด แตะ 94.6 จุด จากเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยช่วง 42 ปี ที่ 98 จุด
NFIB ระบุว่า ดัชนีย่อย 4 ด้านจากทั้งหมด 10 ด้านได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนอีก 4 ด้านปรับตัวลดลง ขณะที่อีก 2 ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นายบิล ดันเคลเบิร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NFIB กล่าวว่า "ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในระดับสูงมาก ขณะที่ความคาดหวังต่อภาวะธุรกิจอยู่ในระดับต่ำ การลงทุนทางธุรกิจในอนาคตก็ดูอ่อนแรงลงเช่นกัน"
นอกเหนือจากภาวะทางเศรษฐกิจแล้ว บรรยากาศทางการเมืองและความขาดแคลนแรงงานที่มีคุณสมบัติ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจขนาดย่อมมองว่าไม่ควรมีการขยายธุรกิจในเวลานี้
นายดันเคลเบิร์ก กล่าวว่า "ข้อมูลของเราบ่งชี้ว่า ในอนาคตอันใกล้แทบจะไม่มีหวังว่าภาคธุรกิจขนาดย่อมจะขยายตัวแข็งแกร่ง"
ด้านนางจัวนิตา ดักแกน ประธานและซีอีโอของ NFIB ระบุในแถลงการณ์ว่า "ธุรกิจขนาดย่อมขาดความเชื่อมั่นมาเป็นเวลานาน 89 เดือนแล้ว ตลอดช่วง 91 เดือนที่ผ่านมา"
นางดักแกน กล่าวว่า "เมื่อขาดความเชื่อมั่นแล้ว เจ้าของธุรกิจขนาดย่อมก็จะไม่มีการลงทุน กู้ยืม หรือจ้างงาน รัฐบาลจำเป็นต้องมีการลดภาษี ผ่อนคลายข้อบังคับและกฎระเบียบบ้าง เพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจขนาดย่อม" สำนักข่าวซินหัวรายงาน