นายซูร์ยามิน หัวหน้าสำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าอินโดนีเซียในเดือนก.ค.นั้นลดลง เนื่องจากยอดส่งออกน้ำมัน ก๊าซ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆร่วงลง
สนง.สถิติรายงานว่า ยอดเกินดุลของอินโดนีเซียลดลงแตะ 0.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนที่แล้ว ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 0.90 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากยอดส่งออกทั้งหมดร่วงลงมากกว่ายอดนำเข้า
ยอดส่งออกเดือนก.ค.ลดลง 17.02% สู่ระดับ 9.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยอดนำเข้าลดลง 11.56% สู่ระดับ 8.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ยอดส่งออกน้ำมันและก๊าซร่วงลง 15.89% แตะ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน
นอกจากนี้ สนง.สถิติระบุว่า อินโดนีเซียมียอดเกินดุล 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ พร้อมคาดว่า ยอดส่งออกสินค้าจะเพิ่มขึ้น 1%-2% ในปีหน้า เนื่องจากนายบัมบัง โบรโจเนโกโร อดีตรมว.คลังอินโดนีเซียได้คาดการณ์ว่า สินค้าและอุปสงค์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับตัวสูงขึ้น
อินโดนีเซียเป็นประเทศส่งออกถ่านหินประเภทให้ความร้อนและน้ำมันปาล์มที่ใหญ่ที่สุด และเป็นผู้ส่งออกยางและโกโก้ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังเป็นประเทศที่มีเหมืองทองแดงใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกอีกด้วย
ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่นำเข้าวัตถุดิบประกอบการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกมากที่สุด