กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 2.034 แสนล้านเยนในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากการนำเข้าพลังงานปรับตัวสูงขึ้น
รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 17.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 6.05 ล้านล้านเยน ขณะที่ยอดส่งออกปรับตัวขึ้น 14.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 5.85 ล้านล้านเยน
ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจำนวนมาก ขณะที่ความต้องการพลังงานจากฟอสซิลปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นได้ปิดการดำเนินงานนับตั้งแต่เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมะเมื่อเดือนมี.ค. 2554
ทั้งนี้ ปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว ถ่านหิน และน้ำมันดิบ ต่างก็ปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ค. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 53.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล พุ่งขึ้น 32.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
รายงานของกระทรวงระบุว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐมูลค่า 4.1112 แสนล้านเยน โดยยอดส่งออกไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้น 11.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.08 ล้านล้านเยน และยอดนำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.4% สู่ระดับ 6.7130 แสนล้านเยน
ขณะที่ยอดส่งออกไปยังประเทศจีนพุ่งขึ้น 23.9% สู่ระดับ 1.12 ล้านล้านเยน และยอดนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น 9.6% สู่ระดับ 1.43 ล้านล้านเยน ส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ากับจีนมูลค่า 3.1184 แสนล้านเยน