จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐพุ่งขึ้นแตะ 3.555 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday December 8, 2018 15:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ว่า จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐในเดือนพ.ย.ที่ระดับ 3.555 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.178 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.

ส่วนในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย.ปีนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐที่ระดับ 2.9352 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.5126 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ประเด็นที่จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐจำนวนมากนั้น เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สหรัฐไม่พอใจ และนำไปสู่การใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ในขณะที่จีนก็ตอบโต้สหรัฐในลักษณะเดียวกัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้เจรจานอกรอบการประชุม G20 ที่อาร์เจนตินาเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันให้เลื่อนกำหนดเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีกมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ออกไปอีก 90 วัน จากกำหนดเดิมในวันที่ 1 ม.ค.2562 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกัน

อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เขาจะสั่งเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากจีน หากความพยายามในการทำข้อตกลงกับจีนประสบความล้มเหลว

"การเจรจาการค้ากับจีนได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยพวกเขามีเวลา 90 วันนับตั้งแต่วันที่ผมเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำกับปธน.สี จิ้นผิงที่อาร์เจนตินา ขณะที่บ็อบ ไลท์ไฮเซอร์ จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับสตีเวน มนูชิน, แลร์รี่ คุดโลว์, วิลเบอร์ รอสส์ และปีเตอร์ นาวาร์โร" ทรัมป์กล่าวผ่านทวิตเตอร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ