กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 4 เดือนในเดือนพ.ค. เนื่องจากการส่งออกไปยังประเทศจีนชะลอตัวลง ท่ามกลางข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ค.ของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 9.671 แสนล้านเยน (8.9 พันล้านดอลลาร์) โดยยอดส่งออกร่วงลง 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 5.84 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 6 ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 1.5% สู่ระดับ 6.80 ล้านล้านเยน ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งเป็นสองประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลกนั้น ได้ทวีความรุนแรงในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศแบนสินค้าของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ของจีน โดยให้เหตุผลเรื่องความมั่นคง
ทั้งนี้ ยอดส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังประเทศจีน ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนรถยนต์ ร่วงลง 9.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่ยอดการนำเข้าสินค้าจากจีน ลดลง 0.9% ส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ากับจีนมูลค่า 3.917 แสนล้านเยน
สำหรับการค้าระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐนั้น ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐเพิ่มขึ้น 14.8% แตะที่ระดับ 3.95 แสนล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3