ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 53.7 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี จากระดับ 55.1 ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐจะดีดตัวสู่ระดับ 55.5 ในเดือนก.ค.
การร่วงลงของดัชนี ISM ได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลให้คำสั่งซื้อใหม่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2559 ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวลงเช่นกัน แต่การจ้างงานฟื้นตัวขึ้นจากเดือนมิ.ย.
ดัชนีภาคบริการยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่
อย่างไรก็ดี การร่วงลงของดัชนีภาคบริการของ ISM สวนทางกับผลสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 53.0 ในเดือนก.ค. จากระดับ 51.5 ในเดือนมิ.ย.
การปรับตัวขึ้นของดัชนี PMI ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. แม้ว่าความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจร่วงลงเป็นเดือนที่ 6 แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์