กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ (31 พ.ค.) ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนเม.ย. ลดลง เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์สกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน นำไปสู่ภาวะชะงักงันด้านอุปทานในวงกว้าง ซึ่งกระทบต่อผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรม และบดบังแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งพึ่งพาการค้าเป็นสำคัญ
รายงานระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนเม.ย. ลดลง 1.3% จากเดือนมี.ค. ซึ่งลดลงอย่างมากในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรเพื่อการผลิต
ทั้งนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ร่วงลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน และหนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 0.2% นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวยังเกิดขึ้นหลังจากที่โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยเมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) ว่า การผลิตทั่วโลกลดลง 9.1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนเช่นกัน เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
กระทรวงฯ ยังเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มผู้ผลิต โดยคาดว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจะกลับมาขยายตัว 4.8% ในเดือนพ.ค. และ 8.9% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2564 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.6% เนื่องจากผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่ายหลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แม้จะมีแรงกดดันจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นในวงกว้างที่อาจกระทบอุปสงค์ก็ตาม