สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (KCS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ในระหว่างวันที่ 1-20 เดือนพ.ย. ลดลง 16.7% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากยอดส่งออกชิปและอุปกรณ์พกพาที่อ่อนแอ
KCS รายงานว่า ยอดส่งออกในระหว่างวันที่ 1-20 พ.ย. แตะที่ 3.32 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 3.98 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนยอดนำเข้าในช่วงเวลาดังกล่าวลดลง 5.5% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 3.76 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดขาดดุลการค้าอยู่ที่ 4.4 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ จำนวนวันทำงานในช่วง 20 วันแรกของเดือนพ.ย. ลดลง 1 วันเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
เมื่อแยกตามภาคธุรกิจนั้น การส่งออกชิปซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของเกาหลีใต้ ลดลง 29.4% สู่ระดับ 5.28 พันล้านดอลลาร์ ส่วนยอดส่งออกอุปกรณ์พกพาลดลง 20.6% สู่ระดับ 1.36 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กลดลง 18.8% ในช่วงเวลาดังกล่าว สู่ระดับ 2.46 พันล้านดอลลาร์
ในทางตรงกันข้าม ยอดส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น 28.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีแตะระดับ 3.15 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 20 วันแรกของเดือนพ.ย. ขณะที่ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 16.1% แตะที่ 3 พันล้านดอลลาร์
เมื่อแยกเป็นรายประเทศพบว่า การส่งออกไปยังจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ร่วงลง 28.3% สู่ระดับ 7.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกไปยังสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11% แตะที่ 5.7 พันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (EU) และเวียดนามลดลง 1.5% และ 14.4% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ยอดการส่งออกของเกาหลีใต้อยู่ที่ 5.248 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ลดลง 5.7% จาก 5.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งแรกเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ลดลง 3.6% ในเดือนต.ค. 2563