นายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์ กล่าวในระหว่างการชุมนุมเนื่องในวันแรงงานวันนี้ (1 พ.ค.) ว่า สิงคโปร์กำลังสัมผัสได้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ท่ามกลางความตึงเครียดทั่วโลกหลังจากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้า พร้อมระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิด "ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเต็มรูปแบบ"
"จนถึงขณะนี้ สิงคโปร์ยังไม่ตกเป็นเป้าความสนใจ แต่คุณมั่นใจได้เลยว่า สิงคโปร์จะถูกตรวจสอบเข้มงวดมากขึ้นเช่นกัน" นายกฯ สิงคโปร์กล่าว โดยอ้างถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำหนดภาษีนำเข้าพื้นฐานขั้นต่ำ 10% สำหรับสินค้าที่นำเข้าทั้งหมด รวมถึงสินค้าจากสิงคโปร์
หว่องระบุว่า ผลกระทบต่อภาคธุรกิจนั้นเป็นเรื่องจริงและกำลังขยายตัวขึ้น โดยชี้ให้เห็นถึงคำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิกหรือล่าช้า การลงทุนที่ถูกเลื่อนออกไป และการดำเนินงานที่ลดขนาดลง "อเมริกาเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว มันจะส่งผลไปทั่วโลก และจะส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์ด้วยเช่นกัน"
หว่องเตือนว่าวิกฤตนี้ "จะไม่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว" เหมือนกับการระบาดของโควิด-19 ที่บางคนเชื่อว่าจะคลี่คลายภายในไม่กี่เดือน แต่กลับเกิดการระบาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายระลอก
"ไม่มีใครบอกได้ว่าจะนานแค่ไหน แต่คงไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงปีเดียว ดังนั้น เราต้องเตรียมใจสำหรับช่วงเวลาที่ยาวนาน สำหรับช่วงเวลายากลำบากที่รออยู่ข้างหน้า และทำทุกอย่างที่เราทำได้เพื่อเสริมสร้างสถานะของสิงคโปร์ให้แข็งแกร่ง เพราะนี่คือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" เขากล่าว