การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปิดฉากลงแล้วเมื่อวันอาทิตย์ (11 พ.ค.) ที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศเชิงบวก โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าได้บรรลุ "ข้อตกลง" เพื่อลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ขณะที่เจ้าหน้าที่จีนเผยว่าการหารือครั้งนี้นำไปสู่ "ฉันทามติที่สำคัญ" พร้อมเห็นพ้องจัดตั้งเวทีหารือด้านเศรษฐกิจรูปแบบใหม่
แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่เหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน เปิดเผยว่าจะมีการออกแถลงการณ์ร่วมในวันจันทร์ (12 พ.ค.) โดยระบุว่าการเจรจาเป็นไปอย่าง "ตรงไปตรงมา ลึกซึ้ง และสร้างสรรค์" ขณะที่หลี่ เฉิงกัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า แถลงการณ์ดังกล่าวจะมี "ข่าวดีสำหรับโลก"
ด้านสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเจมิสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ และเตรียมเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในวันจันทร์เช่นกัน
เกรียร์กล่าวว่า ข้อตกลงที่เกิดขึ้นจะมีส่วนช่วยลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมเสริมว่าการที่ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในระยะเวลาอันสั้น สะท้อนให้เห็นว่าความแตกต่างระหว่างกันอาจไม่ได้มากอย่างที่เคยคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายมิได้กล่าวถึงความคืบหน้าใด ๆ ในประเด็นการปรับลดภาษีนำเข้าที่ต่างฝ่ายเรียกเก็บในอัตราสูง โดยสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้าจีนในอัตรา 145% ขณะที่จีนเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ ในอัตรา 125%