นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ เจพีมอร์แกนอนุญาตให้ลูกค้าสามารถซื้อบิตคอยน์ได้แล้ว แม้ว่าตัวเขายังคงไม่มีความเชื่อมั่นในบิตคอยน์
"เราอนุญาตให้คุณซื้อได้ แต่เราจะไม่เก็บรักษาให้คุณ โดยเราจะแจ้งในรายงานบัญชีของลูกค้าเท่านั้น" นายไดมอนกล่าวในวันประชุมนักลงทุนประจำปีของทางธนาคารเมื่อวานนี้ (19 พ.ค.)
อย่างไรก็ตาม นายไดมอนย้ำว่ามุมมองส่วนตัวของเขาที่มีต่อบิตคอยน์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยเขาเน้นถึงปัญหาของบิตคอยน์ เช่น การฟอกเงิน ความไม่โปร่งใสเรื่องความเป็นเจ้าของ รวมถึงการเกี่ยวพันกับการค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณี และการก่อการร้าย
"ผมไม่คิดว่าคุณควรสูบบุหรี่ แต่ผมก็ปกป้องสิทธิ์ของคุณที่จะสูบบุหรี่ และผมก็ปกป้องสิทธิ์ของคุณที่จะซื้อบิตคอยน์ได้เช่นกัน" นายไดมอนกล่าว
การตัดสินใจในครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีครั้งสำคัญของนายไดมอน ซึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์บิตคอยน์และตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอย่างหนัก และสิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์ได้เริ่มเข้าสู่กระแสหลักของการลงทุนมากขึ้น หลังจากที่เมื่อเดือนส.ค.2567 ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ ก็ได้อนุญาตให้ที่ปรึกษาทางการเงินของธนาคารสามารถแนะนำกองทุน Spot Bitcoin ETF ให้แก่ลูกค้าที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
ก่อนหน้านี้ เมื่อราคาคริปโทเคอร์เรนซีพุ่งขึ้นในปี 2564 นายไดมอนเคยเรียกบิตคอยน์ว่า เป็นสิ่งที่ไร้ค่า และในการเข้าให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐในช่วงปลายปี 2566 เขากล่าวว่า "ผมต่อต้านบิตคอยน์มาโดยตลอด ประโยชน์อย่างเดียวของมันคือเป็นเครื่องมือของอาชญากร พ่อค้ายาเสพติด นักฟอกเงินและเลี่ยงภาษี ซึ่งถ้าผมเป็นรัฐบาล ผมคงสั่งปิดมันไปแล้ว"