ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ (28 พ.ค.) ตามการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เลื่อนกำหนดเวลาการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปในอัตรา 50% ออกไปจนถึงวันที่ 9 ก.ค.
ด้านออสเตรเลียมีกำหนดที่จะรายงานข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้ และธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) มีกำหนดที่จะเปิดเผยแถลงการณ์นโยบายการเงิน
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) พยายามที่จะรักษาเสถียรภาพทางการเงินในการประชุมประจำปีซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันอังคาร (27 พ.ค.) แต่ยังคงห่างไกลจากการบรรลุเป้าหมายที่ได้ถูกปรับลดลงแล้ว
WHO ได้รับผลกระทบจากการถอนตัวของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุด ซึ่งทำให้ต้องปรับลดงบประมาณปี 2569-2570 ซึ่งมีจำนวนน้อยอยู่แล้วจาก 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเหลือ 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยงบประมาณของ WHO ในปี 2567-2568 อยู่ที่ 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังคงขาดงบประมาณอยู่ราว 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
-- เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศข่าวดีเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับหลายประเทศในสัปดาห์นี้
"ผมคาดว่าเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับหลายประเทศในสัปดาห์นี้ ซึ่งบางประเทศก็ใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว โดยอินเดียเป็นหนึ่งในนั้น แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับท่านประธานาธิบดี" แฮสเซตต์กล่าวกับสำนักข่าว CNBC
นอกจากนี้ แฮสเซตต์กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่มีความประสงค์ที่จะทำร้ายบริษัทแอปเปิ้ลด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากร
"ทุกคนทำราวกับว่าเรื่องนี้ถือเป็นหายนะ หากมีการเก็บภาษีเพียงเล็กน้อยต่อทางบริษัทในตอนนี้ และพยายามที่จะเจรจาเพื่อลดภาษีลง สุดท้ายเราจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราก็ไม่ได้ต้องการทำร้ายแอปเปิ้ล" แฮสเซตต์กล่าวในรายการ "Squawk Box" ของ CNBC
-- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมในภาคการผลิตของรัฐเท็กซัสปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -15.3 ในเดือนพ.ค. จากระดับ -35.8 ในเดือนเม.ย.
ดัชนีมีค่าเป็นลบ บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในรัฐเท็กซัส
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 6.3% ในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 7.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 7.6% ในเดือนมี.ค.
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ลดลง 1.3% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.
-- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัว 2.2% ในไตรมาส 2/2568 หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 0.3% ในไตรมาส 1
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งต่อไปในวันที่ 30 พ.ค.
-- ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 12.3 จุด สู่ระดับ 98.0 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 85.7 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 86.0
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐฯ และจีนสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการปรับลดอัตราภาษีศุลกากร ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างประเทศทั้งสอง ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยในวันนี้ (28 พ.ค.) ได้แก่ ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย., เยอรมนีเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ค. และสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาริชมอนด์ และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 6-7 พ.ค.ในเช้าวันที่ 29 พ.ค.