เดฟ แมคคอร์มิค วุฒิสมาชิกจากรัฐเพนซิลเวเนียเปิดเผยว่า นิปปอน สตีล (Nippon Steel) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของญี่ปุ่นได้ตกลงที่จะลงทุน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในยูเอส สตีล (U.S. Steel) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของสหรัฐฯ พร้อมให้คำมั่นว่าสมาชิกคณะกรรมการบริหารส่วนใหญ่จะเป็นชาวอเมริกัน
แมคคอร์มิคให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีเมื่อวันอังคาร (27 พ.ค.) ว่า หนึ่งในเงื่อนไขสำคัญของข้อตกลงคือ รัฐบาลสหรัฐฯ จะได้รับ "หุ้นทองคำ" (golden share) หรือสิทธิพิเศษที่ให้รัฐบาลสามารถควบคุมโครงสร้างการบริหารของบริษัท
แมคคอร์มิคอธิบายว่า โครงสร้างการควบคุมจะค่อนข้างพิเศษ เพราะเป็นข้อตกลงด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ต้องลงนามกับรัฐบาลสหรัฐฯ หุ้นทองคำจะทำให้รัฐบาลสามารถอนุมัติหรือไม่อนุมัติรายชื่อกรรมการได้หลายตำแหน่ง และช่วยให้สหรัฐฯ มั่นใจว่าการผลิตจะไม่ถูกลดลง
ขณะเดียวกัน แมคคอร์มิคยังยืนยันว่า ยูเอส สตีล จะมีซีอีโอเป็นชาวอเมริกัน และคณะกรรมการบริหารส่วนใหญ่จะเป็นคนสหรัฐฯ
ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้แสดงท่าทีสนับสนุนข้อตกลงซื้อกิจการยูเอส สตีลโดยนิปปอน สตีล และเรียกความร่วมมือครั้งนี้ว่าเป็น "การเป็นหุ้นส่วน"
แม้รายละเอียดเกี่ยวกับอนาคตของยูเอส สตีลจะยังไม่ชัดเจน แต่ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์ (25 พ.ค.) ว่า ข้อตกลงนี้เป็นการ "ลงทุน" และบริษัทจะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ
แมคคอร์มิคกล่าวว่า ตนและวุฒิสมาชิกหลายคนได้มีโอกาสพูดคุยกับทรัมป์เมื่อวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.) ก่อนที่ทรัมป์จะประกาศข่าวผ่านโซเชียลมีเดียในวันถัดมา และทรัมป์มีกำหนดเข้าร่วมการชุมนุมที่โรงงานยูเอส สตีลในรัฐเพนซิลเวเนียในวันศุกร์นี้ (30 พ.ค.)