ผลสำรวจล่าสุดโดย Chief Executive Group พบว่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในสหรัฐฯ มีความกังวลน้อยลงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. โดยผลสำรวจจากซีอีโอ 277 คนระบุว่า มีเพียง 28% ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแบบไม่รุนแรงหรือชะลอตัวในระยะสั้น และไม่มีใครคาดว่าจะเกิดภาวะถดถอยรุนแรง ซึ่งลดลงจากเดือนพ.ค.ที่มีซีอีโอถึง 38% คาดว่าเศรษฐกิจจะถดถอยแบบไม่รุนแรง และ 8% คาดว่า เศรษฐกิจจะถดถอยอย่างหนักในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
ขณะเดียวกัน การประเมินสภาพธุรกิจปัจจุบันของซีอีโอในเดือนมิ.ย.ก็ดีขึ้น โดย 51% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า สถานการณ์จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีความคืบหน้า
ด้านความต้องการของผู้บริโภคนั้น ซีอีโอส่วนใหญ่ยังคงมองในแง่บวก โดย 69% ระบุว่า ความต้องการซื้อของผู้บริโภคยังอยู่ในระดับเดียวกับหรือสูงกว่าปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนว่ากำลังซื้อภายในประเทศยังแข็งแกร่งพอสมควร
นอกจากนี้ การคาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อก็เริ่มผ่อนคลายลงในเดือนพ.ค. ตามรายงานจากผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก ซึ่งเผยแพร่ในวันเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้ เฟดเคยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอลงเล็กน้อยนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเม.ย. เนื่องจากผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น
ผลสำรวจยังเปิดเผยว่า ซีอีโอที่มองว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเล็กน้อยภายในสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 25% ในเดือนพ.ค.เป็น 36% ขณะที่ผู้ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 6% ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวในภาคเอกชน
หลังช่วงเวลาที่ตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอนจากภาษีและความตึงเครียดด้านการค้า กลุ่มซีอีโอในสหรัฐฯ เริ่มมีมุมมองว่า ความผันผวนเหล่านี้อาจเป็นเพียงระยะสั้น และคาดว่าในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเดินหน้าต่อไปในวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เริ่มต้นการเจรจากับผู้แทนจากจีนที่กรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยว่าเขาได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน หลังจากทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าละเมิดข้อตกลงการค้าเบื้องต้น