ศาลอุทธรณ์กลางในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีคำสั่งล่าสุดว่า ภาษีนำเข้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เคยประกาศใช้ จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปในระหว่างที่การอุทธรณ์คำตัดสินของศาลชั้นต้นกำลังดำเนินอยู่
แม้ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้ตัดสินว่าภาษีเหล่านี้มีความชอบด้วยกฎหมายภายใต้กฎหมาย IEEPA ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจพิเศษทางเศรษฐกิจในภาวะฉุกเฉินระดับนานาชาติ แต่ศาลก็เห็นควรให้ภาษีดังกล่าวยังคงมีผลบังคับใช้ในระหว่างที่การพิจารณาคดียังไม่แล้วเสร็จ
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้พิพากษา 3 คนเป็นองค์คณะ พิจารณาว่า การที่ทรัมป์ใช้อำนาจกำหนดภาษีนำเข้าถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากอำนาจในการเก็บภาษีเป็นของรัฐสภา และการที่ทรัมป์อ้างใช้กฎหมาย IEEPA นั้น ยังเกินขอบเขตการใช้กฎหมายที่มีไว้สำหรับการรับมือภัยคุกคามพิเศษในยามฉุกเฉิน
ศาลอุทธรณ์ระบุว่า คดีนี้มีลักษณะพิเศษและส่งผลสำคัญต่อระบบกฎหมาย จึงจะพิจารณาโดยคณะผู้พิพากษาทั้ง 11 คนของศาลฯ แทนการพิจารณาโดยผู้พิพากษา 3 คนตามปกติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยมีกำหนดนัดไต่สวนในวันที่ 31 ก.ค. ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ล่าสุดเปิดทางให้ทรัมป์ยังสามารถบังคับใช้มาตรการที่รู้จักกันในชื่อ "ภาษีวันปลดแอก" ซึ่งมุ่งเป้าไปยังประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ รวมถึงภาษีนำเข้าอีกชุดที่ใช้กับแคนาดา จีน และเม็กซิโก แม้ศาลชั้นต้นตัดสินให้ระงับการบังคับใช้ชั่วคราวก็ตาม