สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (17 มิ.ย.) ว่า ร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลเพิ่มขึ้นถึง 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในช่วง 10 ปีข้างหน้า
ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งทรัมป์เรียกว่า เป็นฉบับที่ "สวยงามและยิ่งใหญ่" (One Big Beautiful Bill) ถือเป็นวาระสำคัญของรัฐบาล โดยครอบคลุมนโยบายหลายด้าน อาทิ การเก็บภาษี การควบคุมพรมแดน และปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายนี้ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างรุนแรงในกลุ่มสมาชิกสภาฯ ว่า อาจยิ่งเพิ่มภาระหนี้สาธารณะให้กับประเทศ
รายงานของ CBO ยังระบุว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในสหรัฐฯ ขยายตัว โดยประชาชนกลุ่มรายได้น้อยจะต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 1,600 ดอลลาร์ต่อปี ขณะที่ครัวเรือนที่มั่งคั่งที่สุดจะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นถึง 12,000 ดอลลาร์ต่อปี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เนื่องจากมีรายงานหลายฉบับที่แสดงความกังวลและมีมุมมองเชิงลบต่อร่างกฎหมายดังกล่าวและมาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้ CBO ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสมาชิกพรรครีพับลิกันบางราย
ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สังกัดพรรครีพับลิกันออกมาระบุว่า CBO ขึ้นชื่อเรื่องการคาดการณ์ผิดพลาด ขณะที่แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวก็บ่งชี้ว่า ตัวเลขคาดการณ์ของ CBO นั้นไร้สาระ
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ยังคงผลักดันให้รัฐสภาอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวให้ทันก่อนวันชาติสหรัฐฯ ในวันที่ 4 ก.ค.นี้ ซึ่งการคาดการณ์ของ CBO อาจกลายเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่ระหว่างสองพรรคใหญ่ในสภาคองเกรส