ข้อตกลงการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ตกลงร่วมกันเมื่อเดือนที่แล้ว เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ (30 มิ.ย.) โดยรายละเอียดที่สำคัญของข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากอังกฤษลงจากระดับ 25% สู่ระดับ 10% ตลอดจนการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าด้านการบินและอวกาศ เช่น เครื่องยนต์และชิ้นส่วนเครื่องบินลงเหลือ 0%
ผู้ผลิตรถยนต์ของสหราชอาณาจักรสามารถส่งออกไปยังสหรัฐฯ ภายใต้ภาษีศุลกากรอัตรา 10% ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขณะที่บริษัทการบินและอวกาศของสหราชอาณาจักร เช่นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์ (Rolls-Royce Holdings) สามารถส่งออกสินค้าต่าง ๆ ไปยังสหรัฐฯ รวมถึงเครื่องยนต์และชิ้นส่วนเครื่องบิน ด้วยอัตราภาษีศุลกากรที่ลดลงเหลือ 0% จากเดิม 10% ตั้งแต่เวลา 05.01 น. ตามเวลากรุงลอนดอน
เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า "นับตั้งแต่วันนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ การบินและอวกาศระดับโลกของเราจะได้รับการปรับลดภาษีศุลกากร ซึ่งจะช่วยปกป้องอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของเรา"
ภาษีศุลกากรในอัตราใหม่ 10% ของสหรัฐฯ นั้น จะใช้กับรถยนต์ที่ผลิตในอังกฤษภายใต้โควตา 100,000 คันต่อปี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัทต่าง ๆ เช่นจากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ (Jaguar Land Rover) เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากประเทศอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีสัญญาณความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับลดภาษีสำหรับอุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่ประสบปัญหาของสหราชอาณาจักร โดยขณะนี้อัตราภาษียังคงอยู่ที่ 25% แม้ก่อนหน้านี้สหราชอาณาจักรประกาศข้อตกลงที่จะลดภาษีลงเหลือ 0% ก็ตาม
ทางด้านกระทรวงธุรกิจของสหราชอาณาจักรระบุว่า สหราชอาณาจักรจะยังคงหารือกับสหรัฐฯ เพื่อสร้างความคืบหน้าในการปรับลดภาษีเหล็กกล้าให้เหลือศูนย์ตามที่ตกลงไว้ โดยไม่ได้ระบุว่าทางกระทรวงคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด