ปับลิซีส กรุ๊ป (Publicis Group) บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตรายได้ปี 2568 หลังผลประกอบการไตรมาส 2/68 ออกมาดีกว่าคาด พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีสร้างสรรค์โฆษณาด้วย AI ที่เมตา (Meta) เพิ่งเปิดตัว ไม่สามารถเข้ามาแทนที่บริษัทโฆษณาได้
อาร์เธอร์ ซาดูง ซีอีโอปับลิซีส กล่าวระหว่างการแถลงผลประกอบการว่า "ทุกครั้งที่เมตาออกมาบอกว่าพวกเขาสามารถทำทุกอย่างเองได้ ผมคิดว่าพวกเขามองข้ามความฉลาดของลูกค้าเราไปมาก ซึ่งลูกค้าเหล่านี้ไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกได้ง่าย ๆ"
นอกจากนี้ ซาดูงยังชี้ให้เห็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่วางใจที่จะฝากข้อมูลไว้กับแพลตฟอร์มเดียว ลูกค้าต่างต้องการเครื่องมือวัดผลเม็ดเงินที่ลงทุนไป ซึ่งแพลตฟอร์มที่ทำงานอยู่ในระบบปิดไม่สามารถให้บริการนี้ได้
ซาดูงเสริมว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตนได้ยินมาตลอดว่าบรรดาแพลตฟอร์มจะกลืนเรา แต่มันไม่ใช่ความจริง "ถึงเวลาเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว"
ปับลิซีสรายงานด้วยว่า ขณะนี้บริษัทได้เสร็จสิ้นกระบวนการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีมูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะเดินหน้ากลยุทธ์ผ่านแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งรวมถึงการใช้แพลตฟอร์มภายในที่ขับเคลื่อนด้วย AI และบิ๊กดาต้า เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและยิงโฆษณาเฉพาะบุคคลสู่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 4 พันล้านคนทั่วโลก
ทั้งนี้ บริษัทปรับเป้าเติบโตของรายได้ปี 2568 เป็นเกือบ 5% จากเดิม 4%5% หลังรายงานรายได้สุทธิไตรมาส 2/68 พุ่ง 5.9% โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทคว้าลูกค้าใหม่ได้เป็นประวัติการณ์ รวมถึงแบรนด์ใหญ่ เช่น Coca-Cola, Nespresso, Lego, Paramount และ Spotify
ส่วนรายได้รวมในไตรมาส 2/68 เพิ่มขึ้น 10% โดยมีการเติบโตในทุกภูมิภาค ได้แก่ 5.3% ในสหรัฐฯ, 4.6% ในยุโรป และ 5.7% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะที่มูลค่างานใหม่ในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 5.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแซงหน้าคู่แข่งรายใหญ่อย่าง ดับบลิวพีพี (WPP), ออมนิคอม (Omnicom), เดนท์สุ (Dentsu) และอินเตอร์พับลิค (Interpublic) ซึ่งมีการเติบโตค่อนข้างนิ่ง