ทำเนียบขาวแถลงในวันพุธ (23 ก.ค.) ว่า ญี่ปุ่นจะซื้อสินค้าเกษตรและอาหารจากสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงข้าวโพด ถั่วเหลือง ปุ๋ย และเชื้อเพลิงชีวภาพ ภายใต้ข้อตกลงการค้าฉบับใหม่
หนึ่งวันหลังจากที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลง ทำเนียบขาวได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขของข้อตกลง โดยระบุว่า ญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ จะซื้อเครื่องบินพาณิชย์ที่ผลิตในสหรัฐฯ เพิ่ม รวมถึงเครื่องบินโบอิ้ง 100 ลำ และยุทโธปกรณ์ป้องกันประเทศเป็นมูลค่า "อีกหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี"
ทั้งนี้ หลังจากเจรจากันมาหลายรอบ ในที่สุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะปรับลดภาษีสำหรับรถยนต์และสินค้าอื่น ๆ ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นลงเหลือ 15% ซึ่งทันเวลาก่อนที่อัตราภาษี 25% ที่ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บจากญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ จะมีผลตามกำหนดในวันที่ 1 ส.ค.
ลงทุนในสหรัฐฯ 5.5 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากซื้อสินค้าสหรัฐฯ เพิ่มเติมแล้ว สิ่งที่รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มองว่าเป็นผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ คำมั่นของญี่ปุ่นที่จะลงทุน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินลงทุนที่จะมุ่งไปที่ภาคส่วนที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ตั้งแต่เซมิคอนดักเตอร์และยา ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและแร่ธาตุสำคัญ
ทำเนียบขาวเน้นย้ำว่า ข้อตกลงนี้ถือเป็น "ข้อผูกพันการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาโดยประเทศใดประเทศหนึ่ง" พร้อมยกย่องข้อตกลงนี้ว่าเป็น "การปรับแนวยุทธศาสตร์ใหม่ของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น" ที่จะส่งเสริมผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศร่วมกัน
แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า หัวใจสำคัญของข้อตกลงกับญี่ปุ่นคือ การให้คำมั่นที่จะลงทุน 5.5 แสนล้านดอลลาร์เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของสหรัฐฯ
เธอกล่าวในการแถลงข่าวว่า แรกเริ่มญี่ปุ่นให้คำมั่นที่จะลงทุน 4 แสนล้านดอลลาร์ แต่ปธน.ทรัมป์เจรจาจนได้ตัวเลขเพิ่มขึ้นมาอีก 1.5 แสนล้านดอลลาร์
เพิ่มการนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ภายใต้ข้อตกลง ญี่ปุ่นยังให้คำมั่นว่าจะขยายสัดส่วนการนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ ภายใต้ระบบโควตาการนำเข้าขั้นต่ำ (Minimum Access) ขององค์การการค้าโลก (WTO) โดยปัจจุบัน ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวปลอดภาษีประมาณ 770,000 ตันต่อปีภายใต้กรอบของ WTO
ทำเนียบขาวเปิดเผยโดยไม่ให้รายละเอียดว่า ญี่ปุ่นจะเพิ่มการนำเข้าข้าวสหรัฐฯ ทันทีอีก 75% พร้อมกับการ "ขยายโควตาครั้งใหญ่"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกล่าวว่า ข้อตกลงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ญี่ปุ่นลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร และระบุว่า การขยายสัดส่วนข้าวสหรัฐฯ ภายใต้โควตาพิเศษจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดข้าวในประเทศ
ทั้งนี้ ข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักของญี่ปุ่น ถือเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากชาวนาผู้ปลูกข้าวเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่บริหารประเทศมาอย่างยาวนาน
รายงานระบุว่า ทรัมป์ได้กล่าวในงานแห่งหนึ่งที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันพุธว่า เขาได้ลดอัตราภาษีตอบโต้สำหรับญี่ปุ่นลงเหลือ 15% จาก 25% เนื่องจากญี่ปุ่นตกลง "เป็นครั้งแรกที่จะเปิดประเทศเพื่อการค้า เพื่อให้ธุรกิจอเมริกันและอัจฉริยะทางธุรกิจของเรา... สามารถไปทำธุรกิจได้อย่างเปิดกว้างและเสรี"
ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า ญี่ปุ่นเจรจายาก แต่ถึงกระนั้น ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่ "ยอดเยี่ยม"