ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) เปิดเผยว่า ข้อมูลยอดขายปลีกของเวียดนามในเดือนมิ.ย.ที่ขยายตัวเพียง 8.3% เมื่อเทียบรายปี เป็นสัญญาณสะท้อนถึงการชะลอตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ
จากแนวโน้มดังกล่าว ธนาคารจึงปรับลดคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 6.1% จากเดิมที่ 6.7% ขณะเดียวกันได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลงมาอยู่ที่ 3.5% จาก 3.8%
นายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ของเวียดนามเปิดเผยเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ว่า รัฐบาลตั้งเป้าให้อัตราการเติบโตของ GDP ปีนี้อยู่ที่ 8.3%-8.5% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโต 7.09% ในปีที่แล้ว โดยรัฐบาลมองว่าเป้าหมายดังกล่าวจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการบรรลุอัตราการเติบโตระดับเลขสองหลักในช่วงปี 2569-2573 ทั้งนี้ สภานิติบัญญัติของเวียดนามได้อนุมัติเกณฑ์การเติบโตอย่างน้อย 8% สำหรับปีนี้แล้ว
เวียดนามวางแผนปรับปรุงกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม อาทิ การบริโภคภายในประเทศ การส่งออก และการลงทุน ควบคู่กับการเร่งพัฒนาปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ เช่น การเติบโตสีเขียวและเศรษฐกิจดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม นายกฯ เวียดนามยอมรับว่า เวียดนามยังคงเผชิญความท้าทายจากความขัดแย้ง การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ ความตึงเครียดทางการค้า การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ