รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาชี้แจงหลักเกณฑ์การแบ่งผลกำไรจากแพ็กเกจลงทุนมูลค่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ในวันนี้ (25 ก.ค.) โดยย้ำว่า สัดส่วนจะขึ้นอยู่กับ "ระดับการลงทุนและความเสี่ยงที่แต่ละฝ่ายแบกรับ" ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทำเนียบขาวระบุเมื่อต้นสัปดาห์ว่าสหรัฐฯ จะได้รับส่วนแบ่งถึง 90% จากข้อตกลงดังกล่าว
เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นผู้ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า ผลตอบแทนจะถูกแบ่งในสัดส่วน 10% สำหรับญี่ปุ่น และ 90% สำหรับสหรัฐฯ โดยอิงตามระดับการลงทุนและความเสี่ยงที่แต่ละฝ่ายแบกรับ ซึ่งคำชี้แจงนี้สะท้อนว่า แผนการลงทุนดังกล่าวต้องอาศัยการมีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน แม้รายละเอียดเชิงโครงสร้างจะยังไม่ชัดเจน
สำหรับแพ็กเกจการลงทุนมูลค่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่ญี่ปุ่นจะดำเนินการเพื่อแลกกับการที่สหรัฐฯ จะลดภาษีนำเข้าสินค้าประเภทรถยนต์และสินค้าส่งออกอื่น ๆ
รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า แพ็กเกจการลงทุนนี้จะอาศัยเงินกู้และการค้ำประกันจากรัฐวิสาหกิจอย่างธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) และบริษัทประกันภัยการส่งออกและการลงทุนแห่งญี่ปุ่น (NEXI) เพื่อสนับสนุนให้บริษัทญี่ปุ่นสามารถสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งในภาคส่วนยุทธศาสตร์ เช่น ยาและเซมิคอนดักเตอร์
ทั้งนี้ การแก้ไขกฎหมายเมื่อปี 2566 ได้ขยายขอบเขตให้ JBIC สามารถปล่อยสินเชื่อแก่บริษัทต่างชาติที่มีบทบาทสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานของญี่ปุ่นได้