โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เปิดเผยกับสื่อในวันพฤหัสบดี (24 ก.ค.) ว่า ติ๊กต๊อก (TikTok) จะต้องหยุดดำเนินการในสหรัฐฯ หากรัฐบาลจีนไม่อนุมัติข้อตกลงขายกิจการติ๊กต๊อกซึ่งมีชาวอเมริกันใช้งานอยู่ประมาณ 170 ล้านคน
"จีนอาจจะเหลือส่วนเล็ก ๆ หรือไบต์แดนซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของปัจจุบัน ก็อาจจะเก็บส่วนเล็ก ๆ ไว้ได้ แต่โดยหลักการแล้ว ชาวอเมริกันจะเป็นผู้ควบคุม ชาวอเมริกันจะเป็นเจ้าของเทคโนโลยี และชาวอเมริกันจะควบคุมอัลกอริทึม" ลุตนิกกล่าว โดยยืนยันว่า สหรัฐฯ จะต้องเป็นผู้ควบคุมอัลกอริทึมเบื้องหลังแพลตฟอร์มติ๊กต๊อก
"หากข้อตกลงนี้ได้รับการอนุมัติจากจีน ข้อตกลงก็จะเกิดขึ้น ถ้าพวกเขาไม่อนุมัติ ติ๊กต๊อกก็จะจอดำ และการตัดสินใจเหล่านั้นจะเกิดขึ้นในไม่ช้า" ลุตนิกกล่าวในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขยายกำหนดเส้นตายที่ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต๊อก จะ ต้องขายสินทรัพย์ของติ๊กต๊อกในสหรัฐฯ ออกไป 90 วัน จนถึงวันที่ 17 ก.ย. โดยปธน.ทรัมป์ขยายเส้นตายดังกล่าวแม้กฎหมายปี 2567 ได้กำหนดให้ไบต์แดนซ์ขายหรือปิดกิจการภายในวันที่ 19 ม.ค. หากไม่มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อตกลงที่มีการพิจารณาอยู่นั้นคือการแยกการดำเนินงานของติ๊กต๊อกในสหรัฐฯ ไปเป็นบริษัทใหม่ที่มีฐานในสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทแห่งใหม่นี้จะต้องถือหุ้นส่วนใหญ่และดำเนินการโดยนักลงทุนชาวอเมริกัน แต่ข้อตกลงนี้ได้หยุดชะงักลงหลังจากที่รัฐบาลจีนส่งสัญญาณว่าจะไม่อนุมัติ ภายหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราที่สูงลิ่ว