ราคาแร่เหล็กดีดตัวขึ้นในวันนี้ (29 ก.ค.) หลังจากโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะขยายระยะเวลาพักรบทางการค้ากับจีนออกไปอีก 90 วัน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรที่จะมีต่อเศรษฐกิจโลก
สัญญาแร่เหล็กดีดตัวขึ้น 2% แตะที่ระดับ 102.85 ดอลลาร์/ตัน เมื่อเวลา 12.20 น.ตามเวลาสิงคโปร์ในวันนี้ ส่วนสัญญาณแร่เหล็กสกุลเงินหยวนที่ตลาดต้าเหลียนดีดตัวขึ้น เช่นเดียวกับสัญญาเหล็กที่มีการซื้อขายในตลาดเซี่ยงไฮ้
ทั้งนี้ แม้สหรัฐฯ ไม่ใช่ผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่ของจีน แต่การขยายเส้นตายการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม และจะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการวัตถุดิบด้านอุตสาหกรรม
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน พบปะหารือกันที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เป็นเวลานานกว่าห้าชั่วโมงในวันจันทร์ (28 ก.ค.) และจะเจรจากันต่อในวันนี้ ขณะที่ตลาดคาดหวังว่าทั้งสองประเทศอาจตกลงที่จะขยายเส้นตายการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 12 ส.ค.
ก่อนหน้านี้ เบสเซนต์ได้พบปะกับเหอที่สวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้สหรัฐฯ ลดอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนสู่ระดับ 30% จากเดิมที่ระดับ 145% ขณะที่จีนลดอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 125% โดยระยะเวลาผ่อนผัน 90 วันดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 12 ส.ค.
แม้ราคาแร่เหล็กมีความผันผวนอย่างมากในปี 2568 แต่ขณะนี้ราคาแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงต้นปีและเพิ่งทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ห้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 โดยส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากมุมมองบวกต่อการที่จีนพยายามขจัดการผลิตที่ล้าสมัยในบางภาคส่วนอุตสาหกรรม