เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้าที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ในวันนี้แล้ว โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะขยายระยะเวลาการระงับขึ้นภาษีศุลกากรระหว่างกันออกไป หลังการเจรจาเป็นเวลาสองวัน ซึ่งเป็นการเจรจาการค้ารอบที่ 3 ของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก
อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ประกาศความคืบหน้าในการเจรจา หรือกำหนดเวลาที่ชัดเจนของการขยายเวลาการระงับการขึ้นภาษีแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้พบปะกับนายเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้สหรัฐลดอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนสู่ระดับ 30% จากเดิมที่ระดับ 145% ขณะที่จีนลดอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 125% โดยระยะเวลาผ่อนผัน 90 วันดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 12 ส.ค.
นายเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ กล่าวว่า คณะเจรจาของสหรัฐกำลังจะเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน ดีซี และจะหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการอนุมัติการขยายเวลาผ่อนผันการขึ้นภาษีศุลกากรกับจีน
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่า คณะเจรจาการค้าของสหรัฐจะรายงานสรุปเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับจีนในวันพุธนี้
"ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากท่านรัฐมนตรีคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ ซึ่งแจ้งมาว่าการประชุมกับจีนเป็นไปด้วยดี และพวกเขาจะรายงานผมในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเราจะตัดสินใจว่าจะอนุมัติการขยายเวลาผ่อนผันออกไปอีกหรือไม่" ปธน.ทรัมป์กล่าว