ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลดลงในวันนี้ (1 ส.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศปรับอัตราภาษีตอบโต้สำหรับหลายประเทศ โดยอัตราใหม่อยู่ในช่วง 10% ถึง 41%
-- ทำเนียบขาวเปิดเผยรายละเอียดสุดเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรที่จะเรียกเก็บจากประเทศต่าง ๆ โดยกำหนดว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 19% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับที่เรียกเก็บจากกัมพูชาและมาเลเซีย โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.นี้
ขณะเดียวกันสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไต้หวันในอัตรา 20% ซึ่งสูงกว่าภาษีที่เรียกเก็บจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่ระดับ 15%
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความใน Truth Social เมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) ระบุว่า สหรัฐจะขยายเวลาในการเจรจาการค้ากับเม็กซิโกออกไปอีก 90 วัน เพื่อปูทางสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ
"ผมเพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนาทางโทรศัพท์กับท่านประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแห่งเม็กซิโก ซึ่งเป็นการพูดคุยที่ประสบความสำเร็จมาก เพราะเราต่างเริ่มเข้าใจและรู้จักกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ความซับซ้อนของการทำข้อตกลงกับเม็กซิโกนั้นแตกต่างจากชาติอื่นเล็กน้อย เนื่องจากมีทั้งปัญหาและข้อได้เปรียบเกี่ยวกับชายแดน"
-- สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้า ขณะที่กำหนดเส้นตายในการเจรจากำลังใกล้เข้ามา
"ผมเชื่อว่าเรามีความสามารถในการทำข้อตกลงยังคงมีรายละเอียดทางเทคนิคบางประการที่ทางฝ่ายจีนต้องหารือร่วมกับเรา ซึ่งผมมั่นใจว่าเราจะประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100%" เบสเซนต์กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ Squawk Box ของสำนักข่าว CNBC
-- สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เขากำลังรวบรวมรายชื่อผู้ที่อาจได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ และคาดว่าจะมีการประกาศรายชื่อภายในสิ้นปีนี้
"เรากำลังจัดทำรายชื่อผู้สมัครที่ดีมาก ๆ เพื่อมาแทนที่คุณเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด รวมทั้งอีกหนึ่งตำแหน่งในคณะกรรมการเฟดที่กำลังจะว่างลง ดังนั้นจะมีตำแหน่งว่างสองตำแหน่ง เรากำลังจัดทำรายชื่อเพื่อให้ท่านประธานาธิบดีและหัวหน้าคณะทำงานพิจารณา และเราจะสัมภาษณ์ผู้สมัคร ดังนั้นผมคาดว่าเราน่าจะสามารถประกาศรายชื่อได้ภายในสิ้นปีนี้" เบสเซนต์กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNBC
ทั้งนี้ วาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดของพาวเวลจะสิ้นสุดลงในเดือนพ.ค.2569
-- นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง หลังการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่สูงกว่าคาด
นอกจากนี้ นักลงทุนเลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้เป็นเดือนต.ค. จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 61.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 52.4% เมื่อวานนี้
-- ผลสำรวจของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) พบว่า นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในระยะ 6 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ นักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้า มีจำนวน 40.3% เพิ่มขึ้นจากระดับ 36.8% ในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 37.5%
-- จอห์น เคลลีย์ นักการทูตอาวุโสของสหรัฐฯ กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า เขาต้องการให้รัสเซียและยูเครนบรรลุข้อตกลงยุติสงครามภายในวันที่ 8 ส.ค.
"ทั้งรัสเซียและยูเครนจะต้องเจรจาหยุดยิงและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน ถึงเวลาที่ต้องทำข้อตกลงแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าสิ่งนี้ต้องเกิดขึ้นภายในวันที่ 8 สิงหาคม และสหรัฐฯ พร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับประกันสันติภาพ" เคลลีย์กล่าว
-- ราคาหุ้นของบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป พุ่งขึ้นมากกว่า 5% เมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัททะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ตามหลังบริษัท Nvidia ซึ่งทำสถิติแตะ 4 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ก.ค.
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์เปิดเผยรายได้พุ่งขึ้น 18% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในรอบกว่า 3 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจ Azure ซึ่งให้บริการคลาวด์คอมพิวติง โดยยอดขายจาก Azure และบริการคลาวด์อื่น ๆ มีมูลค่ามากกว่า 75,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบการเงิน 2568 เพิ่มขึ้น 34% จากปี 2567
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยในวันนี้ (1 ส.ค.) ได้แก่ ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จาก S&P Global และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ไตรมาส 2/2568, ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมิ.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จาก S&P Global, เกาหลีใต้เปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จาก S&P Global, จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.จากไฉซิน, อินโดนีเซียเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. และยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมิ.ย., อินเดียเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จาก HSBC, อังกฤษเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ค.จากเนชันไวด์และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จาก S&P Global, ฝรั่งเศสเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จาก HCOB, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จาก HCOB, อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จาก HCOB และอัตราเงินเฟ้อขั้นต้นเดือนก.ค. และสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จาก S&P Global, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมิ.ย.