ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี (31 ก.ค.) เพื่อปรับแก้มาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่ใช้กับหลายสิบประเทศ โดยกำหนดพิกัดอัตราใหม่ตั้งแต่ 10% ถึง 41%
ทำเนียบขาวระบุว่า สินค้าใดก็ตามที่เข้าข่ายการส่งผ่านประเทศอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี (Transshipment) จะถูกเก็บภาษีเพิ่มในอัตราสูงถึง 40%
คำสั่งฉบับใหม่นี้เป็นการปรับปรุงแก้ไขคำสั่งที่เคยประกาศใช้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าประเทศที่ไม่มีชื่ออยู่ในรายการจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 10%
อัตราภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้กับสินค้าที่นำเข้ามาในสหรัฐฯ ตั้งแต่เวลา 00:01 น. ตามเวลาตะวันออก ในอีก 7 วันนับจากวันประกาศคำสั่ง แต่จะมีข้อยกเว้นสำหรับสินค้าบางประเภท
คำสั่งยังระบุอีกว่า สำหรับประเทศคู่ค้าที่บรรลุข้อตกลงการค้าและความมั่นคงกับสหรัฐฯ แล้ว หรือใกล้จะบรรลุข้อตกลง จะยังคงถูกเก็บภาษีในอัตราใหม่นี้ไปจนกว่าข้อตกลงดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้เดินหน้าตามแผนที่ประกาศไว้ โดยจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาเป็น 35% จากเดิม 25% มีผลตั้งแต่วันศุกร์ (1 ส.ค.) เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้จะไม่ครอบคลุมสินค้าที่อยู่ในข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ที่ทรัมป์เคยลงนามไว้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก