"โมดี" ลั่น ไม่ทอดทิ้งเกษตรกรอินเดีย สู้กำแพงภาษี 50% ของ "ทรัมป์"

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 7, 2025 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ประกาศจุดยืนชัดเจนวันนี้ (7 ส.ค.) ว่า จะไม่ยอมทอดทิ้งเกษตรกรของประเทศอย่างเด็ดขาด แม้จะต้อง "ชดใช้ด้วยราคาอันสูงลิ่ว" ก็ตาม ซึ่งเป็นการแสดงท่าทีครั้งแรก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียเป็น 50%

นายกฯ อินเดีย กล่าวว่า "สำหรับเรา ความผาสุกของเกษตรกรคือสิ่งสำคัญที่สุด ... อินเดียจะไม่มีวันยอมแลกความอยู่ดีกินดีของเหล่าเกษตรกร ภาคธุรกิจโคนม และชาวประมงเป็นอันขาด และผมรู้แก่ใจดีว่า เรื่องนี้อาจทำให้ผมต้องชดใช้ด้วยราคาอันสูงลิ่ว"

การตัดสินใจของทรัมป์มีขึ้นในวันเดียวกัน โดยประกาศเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 25% ทำให้ภาษีโดยรวมที่เก็บจากสินค้าอินเดียพุ่งขึ้นไปถึง 50% ซึ่งนับเป็นหนึ่งในอัตราที่สูงที่สุดที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากประเทศคู่ค้า

ก่อนหน้านี้ การเจรจาการค้าระหว่างอินเดียกับสหรัฐฯ ได้ประสบความล้มเหลว หลังจากการเจรจา 5 รอบ เนื่องจากตกลงกันไม่ได้ในประเด็นที่สหรัฐฯ ต้องการให้อินเดียเปิดตลาดเกษตรและโคนมขนาดใหญ่ และให้หยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

ปธน.ทรัมป์ระบุว่า ภาษีใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. เป็นการลงโทษที่อินเดียซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ด้านกระทรวงการต่างประเทศอินเดียแถลงว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯ "เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง" และ "อินเดียจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ"

อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ยังไม่ได้ประกาศใช้ภาษีในลักษณะเดียวกันกับจีน ซึ่งเป็นผู้จัดซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดจากรัสเซีย โดยเหล่าผู้สันทัดกรณีได้ให้ความเห็นว่า จีนรอดพ้นจากเรื่องนี้ไปได้ เพราะจีนมีอำนาจต่อรองสำคัญคือ แร่หายาก (rare earth) และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ที่อินเดียไม่มี

อินเดียได้เริ่มส่งสัญญาณว่าอาจต้องหันไปจับมือกับพันธมิตรรายอื่น เพื่อรับมือกับกำแพงภาษีของทรัมป์ ซึ่งได้สร้างความตึงเครียดทางการทูตระหว่างสองประเทศที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี

มีรายงานว่า นายกฯ โมดีกำลังเตรียมเดินทางเยือนจีนเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปี ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงการจัดทัพพันธมิตรใหม่ ในขณะที่ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ กำลังร้าวฉาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ