รัฐบาลญี่ปุ่นปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งเริ่มต้นในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เหลือเพียง 0.7% จากประมาณการเดิมที่ 1.2% โดยให้เหตุผลว่า มาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการลงทุนภาคธุรกิจ
การคาดการณ์ล่าสุดอ้างอิงตามข้อตกลงการค้าทวิภาคีระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ซึ่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าญี่ปุ่น รวมถึงรถยนต์ ในอัตรา 15% โดยนำมาประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ณ สิ้นเดือนก.ค.
นอกจากนี้ในรายงานรอบครึ่งปีซึ่งรวบรวมโดยสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยังได้มีการปรับลดคาดการณ์การเติบโตของการส่งออกในปีงบประมาณ 2568 ลงเหลือ 1.2% จากเดิมที่คาดไว้ 3.6% เนื่องจากอุตสาหกรรมหลักอย่างยานยนต์จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีดังกล่าว
ส่วนการลงทุนในภาคธุรกิจคาดว่าจะเติบโตเพียง 1.8% จากที่เคยคาดไว้ที่ 3.0% เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ มีแนวโน้มชะลอการขยายกำลังการผลิต ท่ามกลางแนวโน้มการส่งออกที่ซบเซาลง
รัฐบาลระบุในรายงานว่า นอกจากอัตราเงินเฟ้อสูงที่กดดันการบริโภคภาคเอกชนแล้ว รัฐบาลจำเป็นต้องจับตาความเสี่ยงขาลงจากผลกระทบของนโยบายภาษีสหรัฐฯ และปัจจัยอื่น ๆ
สำหรับการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่น คาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.0% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ 1.3% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อยังคงบั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภค