เฉิง ลี่ชวน รองนายกรัฐมนตรีไต้หวันกล่าวในวันนี้ (11 ส.ค.) ว่า รัฐบาลไต้หวันยังคงดำเนินการเจรจาเพื่อขออัตราภาษีนำเข้าที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์มากขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าที่อัตรา 20% กับสินค้าของไต้หวัน
เฉิงเปิดเผยว่า การเจรจากับสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่ และรัฐบาลไต้หวันเตรียมที่จะรายงานความคืบหน้าดังกล่าวต่อรัฐสภา ขณะเดียวกัน ไต้หวันมุ่งหวังว่า จะสามารถเจรจาเรื่องภาษีควบคู่ไปกับการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งกระทำภายใต้กฎหมายขยายการค้า (Trade Expansion Act) มาตรา 232 ปี 1962
สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับไต้หวันมากที่สุดเป็นอันดับหกของโลก โดย 90% ของการขาดดุลการค้านี้มาจากสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัท TSMC ผู้ผลิตชิปตามสัญญารายใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตชิปให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia
สำหรับอัตราภาษีที่จะใช้กับสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเป็นสินค้าหลักที่ไต้หวันส่งออกไปยังสหรัฐฯ นั้น จะมีการกำหนดภาษีในกลุ่มอุตสาหกรรมแยกต่างหากโดยสหรัฐฯ และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
รองนายกรัฐมนตรีเฉิงย้ำว่า เป้าหมายของไต้หวันคือการได้อัตราภาษีที่ดีขึ้นและสมเหตุสมผลกว่าปัจจุบันจากสหรัฐฯ เพื่อช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากมาตรการภาษีนำเข้าใหม่นี้