จีนเผชิญกับเม็ดเงินทุนไหลออกจากตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. เนื่องจากนักลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่ได้รุกเข้าซื้อสินทรัพย์ในตลาดฮ่องกงจำนวนมาก หลังจากมีการออกมาตรการเปิดเสรีตลาดชุดใหม่
การเปิดเสรีตลาดครั้งนี้นับเป็นครั้งล่าสุด หลังจากในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้เพิ่มวงเงินสำหรับนักลงทุนกลุ่มที่ได้รับอนุญาต เพื่อให้นักลงทุนสามารถจัดสรรเงินเหล่านี้ไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปี
สำนักงานปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีน (SAFE) ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนได้ทำการโอนเงินไปยังต่างประเทศในนามลูกค้าเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์เป็นจำนวนสูงถึง 5.83 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นเม็ดเงินที่ไหลออกจากตลาดจีนรายเดือนสูงสุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลในปี 2553
เม็ดเงินทุนที่ไหลออกจากจีนเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่ที่เข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นฮ่องกงจำนวนมากในปีนี้ และมาจากการที่จีนขยายโครงการเชื่อมโยงตลาดพันธบัตร "Southbound Bond Connect" ในเดือนก.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน กองทุนต่างชาติยังคงลดการถือครองพันธบัตรจีน ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเพราะพันธบัตรจีนมีความน่าดึงดูดน้อยลงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า ตลอดจนการลงทุนทางเลือกอื่น ๆ ทั่วโลก
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ทางการจีนอาจจะยอมให้เงินทุนไหลออกได้บ้างในปีนี้ โดยอาศัยจังหวัดที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าเพื่อเปิดเสรีบัญชีทุน (capital account) อย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เงินหยวนเป็นที่ยอมรับในระดับโลกในระยะยาว