เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ยืนยันว่า เกาหลีใต้ไม่สามารถลงทุนด้วยเงินสดจำนวน 3.5 แสนล้านดอลลาร์ ตามที่สหรัฐฯ เรียกร้องภายใต้ข้อตกลงการค้าเพื่อลดภาษีนำเข้า
วี ซอง-ลัค ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ของเกาหลีใต้เมื่อวันเสาร์ (27 ก.ย.) ว่า จุดยืนของเกาหลีใต้ไม่ใช่กลยุทธ์การต่อรอง แต่เป็นข้อเท็จจริงที่เกินขีดความสามารถของประเทศ พร้อมย้ำว่า "เราไม่สามารถจ่ายเงินสด 3.5 แสนล้านดอลลาร์ได้"
วีกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ และคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ เกาหลีใต้และสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเมื่อเดือนก.ค. โดยเกาหลีใต้ตกลงที่จะลงทุน 3.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับการที่สหรัฐฯ ปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าเกาหลีใต้จาก 25% เหลือ 15% แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องโครงสร้างการลงทุน
คำกล่าวของเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้มีขึ้นหลังมีรายงานว่า โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวกับเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ว่า สหรัฐฯ ต้องการให้เกาหลีใต้ลงทุนในรูปแบบของเงินสดมากกว่าการกู้ยืม ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ก็ออกมาย้ำว่าต้องเป็นการจ่ายล่วงหน้า
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้มองว่า ตัวเลขดังกล่าวนั้นมากกว่า 80% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั้งหมดของเกาหลีใต้ และกำลังเร่งหาทางออก เช่น การกู้เงินและการทำข้อตกลงสวอปเงินตราระหว่างกัน เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน คู ยุน-ชอล รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันเสาร์ว่า ได้ข้อสรุปจากการหารือกับสหรัฐฯ เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว และจะประกาศรายละเอียดเร็ว ๆ นี้ โดยย้ำว่าการเจรจาดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจาสวอปเงินตราต่างประเทศ